ในตอนท้ายของศตวรรษ ต้นเชอร์รี่อลาบามาอาจพบว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้อนรับในมอนต์โกเมอรี่

โดยถูกแทนที่ด้วยดอกจาการันด้าสีน้ำเงิน ซึ่งปัจจุบันมีถิ่นกำเนิดในละตินอเมริกา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ต้นปาล์มกะหล่ำปลีซึ่งเป็นต้นไม้ประจำรัฐฟลอริดาและเซาท์แคโรไลนาอาจเติบโตได้ ขณะที่ต้นเฟรเซอร์เฟอร์ซึ่งนิยมปลูกเป็นต้นคริสต์มาสอาจตายได้

ขณะที่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ระยะการเจริญเติบโตของต้นไม้ก็ขยับไปทางเหนือ ตาม การคาดการณ์จาก งานของ US Forest Service ต้นไม้ที่อยู่ใกล้ขอบด้านใต้ของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “เขตความแข็งแกร่งของพืช” จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ในขณะที่ละติจูดทางเหนือจะต้อนรับสายพันธุ์ใหม่จากทางใต้การเปลี่ยนแปลงที่คาดการณ์ไว้ในเขตความแข็งแกร่งของพืชคลิกเพื่อเลือกช่วงเวลา

โซนความแข็งแกร่งของพืชแสดงถึงอุณหภูมิเฉลี่ย 30 ปีของอุณหภูมิที่เย็นที่สุดในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ โซนจะเพิ่มขึ้นตามช่วงเวลา 10 องศาฟาเรนไฮต์ (5.6 องศาเซลเซียส) ปัจจัยนอกเหนือจากความหนาวเย็น เช่น ดิน ปริมาณน้ำฝน และความชื้น มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้

Dan Lambe ผู้บริหารระดับสูงของมูลนิธิ Arbor Day Foundation กล่าวว่า “เขตความเข้มแข็งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์เสมอ ไม่จำเป็นต้องเป็นคัมภีร์ไบเบิล แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ผู้คนคิดว่าพวกเขากำลังปลูกอะไร เพราะอะไร และที่ไหน” Dan Lambe ผู้บริหารระดับสูงของมูลนิธิ Arbor Day กล่าว

สิ่งที่เป็นเดิมพันช่วงของต้นไม้ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันนั้นรวดเร็วในศตวรรษที่ผ่านมา โลกอุ่นขึ้น เร็วกว่า ตอนที่เกิดในยุคน้ำแข็งในอดีต ประมาณ 10 เท่า ด้วยความยากลำบากมนุษย์จะปรับตัวเข้ากับภาวะโลกร้อนได้ สำหรับต้นไม้และระบบนิเวศที่ต้องพึ่งพาพวกมัน การปรับตัวจะยากยิ่งกว่า

เวลาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้ต้นไม้ตาย แต่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอาจทำให้ต้นไม้ตายได้ซึ่งแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ต้นไม้จำนวนมากสามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป มีต้นไม้ในหมู่พวกเราในปัจจุบันที่หยั่งรากก่อนที่ชาวยุโรปจะเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่นี่เป็นครั้งแรก พวกเขาหลีกเลี่ยงไฟ โรคระบาด ความแห้งแล้ง และการแพร่ระบาด แต่บางส่วนก็ไม่รอดจากภาวะโลกร้อน

Lambe เริ่มพิจารณาการย้ายถิ่นฐานของเขตความเข้มแข็งอย่างช้าๆ แต่ไม่หยุดหย่อนในปี 2019 ขณะเข้าร่วมการประชุมเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ในเมืองนอกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี ซึ่งคาดว่าเขตความเข้มแข็งจะเปลี่ยนจากโซน 7 เป็นโซน 8 ในช่วงกลางศตวรรษนี้

“นักรุกขชาติเหล่านี้ทั้งหมดกำลังพูดบนเวทีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยไม่พูดถึงเรื่องการเมืองเลย” แลมเบ้เล่า “พวกเขากำลังพูดถึงจานสีที่เปลี่ยนไปของต้นไม้ที่พวกเขาเลือกเพราะอุณหภูมิที่มากเกินไป”

ภายในสิ้นศตวรรษนี้ วอชิงตัน ดี.ซี. อาจร้อนเกินไปสำหรับต้นไม้ที่อาศัยอยู่ในโซน 7 แต่ไม่อยู่ในโซน 8 ซึ่งรวมถึงต้นคริสต์มาสสายพันธุ์ต่างๆ เช่น เฟรเซอร์เฟอร์และบลูสปรูซ ในขณะเดียวกัน ต้นปาล์มชนิดใหม่ เช่น กะหล่ำที่กล่าวถึงข้างต้น หรือที่เรียกว่า sabal palmettos และต้นหลิวทะเลทราย ซึ่งออกดอกทางตะวันตกเฉียงใต้และทางตอนเหนือของเม็กซิโก สามารถอยู่รอดได้ในฤดูหนาวของ DC