เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจ

ของพวกเขา เช่น ใช้ Line OA ในการสอบถามและสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ หรือใช้บริการส่งอาหารและพัสดุถึงบ้านโดยที่ไม่ต้องออกไปซื้อเอง เป็นต้น หน้าที่ของผู้บริหารองค์กรคือจะต้องปรับแผนหรือทรานส์ฟอร์มธุรกิจของตัวเองให้เข้าไปอยู่ในวงจรการซื้อของกลุ่มลูกค้าหลักให้ได้

มีสองเรื่องที่ธุรกิจ B2C จะต้องตระหนักและปรับตัวให้ทัน คือการเลือกใช้เครื่องมือการตลาดมาเก็บฐานข้อมูลลูกค้าและปิดการขายได้ซ้ำ ๆ โดยที่ไม่ต้องดิ้นรนหาลูกค้าใหม่ ซึ่ง Line Official Account หรือ Line OA

สามารถเก็บฐานลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่พร้อมกับปิดการขายได้ในแอปเดียว นอกจากนั้นการหาวิธีส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สามารถสร้างความพึงพอใจและตอบสนองความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้ หรือที่เรียกว่า Delivery Model

ถ้านำทั้งสองอย่างนี้ทั้ง Line OA และ Delivery Model มาใช้กับธุรกิจ B2C จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อของจากเราได้ง่ายขึ้น เพราะในปี 2020 โลกเริ่มเข้าสู่การซื้อขายออนไลน์อย่างเต็มตัว และบริการส่งของไปที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อีกต่อไป เรามาดูกันว่าจะใช้ Line OA และ Delivery Model มาปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างไร ไปเรียนรู้วิธีคิดพร้อม ๆ กันเลยครับ 

ตอบสนองความต้องการด้วยบริการส่งถึงมือผู้บริโภคสมัยนี้สถานการณ์โลกได้เปลี่ยนไป ผู้คนต่างหวาดกลัวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงทำให้ความต้องการออกจากที่พักอาศัยไปเลือกซื้อสินค้ามีจำนวนลดลง

แต่จำนวนการซื้อของออนไลน์กลับสูงขึ้น ดังนั้น ธุรกิจ B2C จึงต้องปรับตัวมาเปิดบริการขนส่งสินค้าด้วยตัวเอง หรือใช้บริการขนส่งกับพาร์ทเนอร์ที่เป็นธุรกิจบริการขนส่ง แต่ก่อนที่จะลงมือทำ เรามีวิธีคิดของ Delivery Model ให้ท่านนำไปวิเคราะห์ธุรกิจเพื่อหาทางแก้ไขและปรับไปใช้เป็นกลยุทธ์ 

Communicating the Service Offering and Productการโฆษณาสินค้าเป็นเรื่องปกติธุรกิจ B2C ที่ต้องทำกันอยู้แล้ว จะดียิ่งกว่าถ้าเราสื่อสารกับผู้บริโภคให้รับรู้ว่าธุรกิจของเรามีบริการสั่งซื้อออนไลน์และมีบริการส่งสินค้าด้วย

จะทำให้ธุรกิจดูน่าสนใจที่นอกจากจะมีสินค้าที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ยังมีบริการขนส่งที่ดีควบคู่กันไปด้วย หมายความว่าเราสามารถดึงดูดผู้บริโภคด้วยบริการขนส่งที่ตอบโจทย์ความต้องการในยุคนี้

Identifying Demand and Recipients of Servicesการวางแผนกลยุทธ์การขนส่งเราต้องระบุความต้องการ (Demand) ของผู้รับบริการก่อนเสมอ ว่าภูมิภาคใดบ้างที่นิยมใช้บริการขนส่งและรอรับสินค้าที่บ้านเป็นประจำ เช่น ถ้าเรารู้ว่าความต้องการใช้บริการส่งสินค้า (Delivery) ของคนในภาคกลางมีมากกว่าภูมิภาคอื่น

เราก็ต้องใช้พาร์ทเนอร์ที่ให้บริการขนส่งเฉพาะภาคกลางหรือเฉพาะเส้นทางในพื้นที่ภาคกลางเท่านั้น เพื่อที่จะได้วางกลยุทธ์ได้ถูกจุดและประหยัดงบประมาณได้อีกเยอะ ดังนั้น การสำรวจความต้องการของผู้รับบริการถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่เรามองข้ามไม่ได้Determining The Methodology for Service Delivery

ธุรกิจต้องกำหนดวิธีการที่เหมาะสมสำหรับการให้บริการ เพราะธุรกิจแต่ละประเภทมีสินค้าที่แตกต่างกัน เช่น ธุรกิจร้านอาหารที่มีสินค้าหลัก (Core Product) เป็นอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องใช้วิธีการขนส่งที่รวดเร็วเพื่อไม่ให้อาหารและเครื่องดื่มเสียรสชาติ

หรือธุรกิจร้านเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้รถขนส่งคันใหญ่ขนส่งสินค้าไปในระยะทางที่ใกล้หรือไกลหลายร้อยกิโลเมตร ดังนั้น การเลือกวิธีการให้บริการขนส่งต้องวิเคราะห์ความเป็นไปได้จากสินค้าหลักที่เรามี

Identifying Potential Partnership Opportunitiesการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ในการสรรหาพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพมาช่วยให้บริการ โดยวิเคราะห์จาก 3 ปัจจัย ดังนั้นวิเคราะห์จากผลิตภัณฑ์หลัก หรือ Core Product ของธุรกิจว่าเป็นสินค้าประเภทไหน เช่น อาหารสด อาหารปรุงสุก

หรือสินค้าประเภทไม่เน่าเสีย เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์วิเคราะห์จากลูกค้าหลักของเราว่ามีความต้องการรับสินค้าเร็วหรือช้า และต้องใช้ระยะเวลาในการส่งนานหรือไม่ เช่น ถ้าเป็นสินค้าประเภทของสด หรืออาหารปรุงสุก

เราควรเลือกใช้พาร์ทเนอร์ที่ส่งเร็วและมีความคล่องตัว เช่น Lineman, GET, Grab หรือ Food Panda เป็นต้นวิเคราะห์จากพื้นที่การจัดส่ง ว่าจะต้องเลือกใช้พาร์ทเนอร์เจ้าไหนที่มีความสามารถส่งของได้ครอบคลุมทั่วประเทศ หรือส่งได้แค่บางพื้นที่

---

อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ sans-logique.com อัพเดตทุกสัปดาห์